The Nation
................Trainnee
Index
All of my Works
Problems

Problems


ในช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเป็นเด็กฝึกงานแบบใหม่เอี่ยม แน่นอนว่าเราไม่เคยสัมผัสการทำงานจริงมาก่อน เอาตามจริงคือที่เรียนมาทั้ง 3 ปี แทบไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย จะมีก็บ้างนิดหน่อย

ที่เรียนในมหาวิทยาลัย มีมอบหมายให้เขียนข่าว อย่างเก่งก็ 2 สัปดาห์ครั้ง บางเทอมทั้งเทอมเขียนข่าวแค่ 2 ครั้ง เรียกได้ว่าตอนเรียนนี่ชิวๆ มาก ทำตัวได้ตามสบาย แต่พอมาฝึกงาน มาสัมผัสการทำงานจริงๆ โอ้โห...ต้องเขียนทุกวัน บางวันต้องเขียน 2 ข่าว แล้วต้องส่งอย่างรวดเร็วด้วย บางหมายงานเลิกแถลงข่าวตอน 5 โมงเย็น 6โมงเย็นต้องส่งข่าวแล้ว ไม่มีเวลาเอ้อระเหยเลย

ทีนี้ปัญหาที่ตามมาคือ เรื่องการจับประเด็น จับประเด็นไม่ได้ ไม่รู้จะเขียนอะไร ข้อมูลที่ได้มามันเยอะซะจนไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปดี และที่สำคัญ คือไม่รู้จะเริ่มยังไง...อันนี้เป็นเรื่องปกติของมือใหม่ มักจะเป็นกัน เพราะเวลาแหล่งข่าวพูดอะไร เราจะจดไปหมด เกือบทุกคำพูด ซึ่งจริงๆ บางคำพูดที่ไม่มีประเด็น เราไม่ต้องจดก็ได้

พอได้ทำงานทุกวัน ได้เขียนทุกวัน แล้วเอาที่พี่ๆ เรียบเรียงข่าวให้ใหม่กลับมาอ่านดู ก็พอเริ่มรู้เรื่องขึ้น

ปัญหานี้จึงเริ่มดีขึ้น เริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้น หลังจากฝึกงานไปได้แล้ว 2 เดือนกว่าๆ ซึ่งก็ยังนึกไม่ออกว่า หากไม่ได้ฝึกงานแล้ว จะเป็นยังไง
----------------------------------------------------------

พี่ๆ บนกองส่วนมากจะงานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลามาสนใจเราเท่าไหร่ อันนี้ผมก็ถือว่าเป็นอุปสรรคเหมือนกัน แต่เผอิญโชคดีตรงที่ผมเป็นคนช่างสงสัย ผมจึงมักจะไปรบกวนเวลาให้อธิบายเรื่องต่างๆ ที่ผมอยากรู้ อย่างเช่นเรื่องเขียนข่าว หรือเรื่องประเด็น ผมก็มักจะถามว่า มันควรจะเป็นยังไงถึงจะดี เขียนแบบไหนถึงจะน่าอ่าน ฯลฯ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะต้องเข้าไปหา

เรื่องการสัมภาษณ์แหล่งข่าวก็เป็นเรื่องที่ทำให้ประหม่าได้ อันนี้ผมหาสาเหตุให้กับตัวเองได้

มาอยู่โต๊ะเศรษฐกิจ หลายครั้งที่ต้องคุยกับผู้บริหารบริษัทที่ระดับใหญ่ๆ ในองค์กรใหญ่ๆ ในช่วงแรกๆ ผมค่อนข้างจะประหม่า เพราะศัพท์บางคำที่พูดกัน ผมฟังไม่เข้าใจ อันนี้เป็นเพราะว่าพื้นฐานผมแย่ เรื่องเศรษฐกิจ ผมแทบไม่รู้เรื่อง ซึ่งมันทำให้ประหม่านะ เวลาต้องสัมภาษณ์ หรือขอข้อมูลอะไร มันเหมือนกับว่าเราไม่รู้เรื่อง

บางทีก็ไม่เข้าใจเหตุการณ์ด้วยซ้ำ อย่างเช่นเวียดนามขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ...งงเลย ขึ้นดอกเบี้ยมันทำให้เงินเฟ้อลดได้ยังไง ซึ่งผมเวลาไม่เข้าใจตรงไหน ก็มักจะมาถามพี่บนกองเสมอว่ามันเป็นยังไง ... และมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนหลังๆ พอเริ่มรู้เรื่องอะไรมากขึ้น ก็เริ่มซ่า ทีนี้บางทีไม่เรียกสัมภาษณ์แล้ว เรียกซัก

แรกๆ พี่ๆ บนกอง ให้ไปฟังนักข่าวคนอื่นๆ เวลาเขาถามแหล่งข่าว ว่าเขาถามอะไรบ้าง แหล่งข่าวพูดอะไรบ้าง แต่ตอนหลังผมเริ่มร่วมวงถาม และมีถามเดี่ยวๆ ก็มี หึหึหึ

พี่หน่องคือคนที่บอกให้ผมอ่านหนังสือพิมพ์เยอะๆ และบางวันพี่หน่องก็จะมาถามว่าวันนี้มีประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งผมก็ต้องอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้าล่ะทีนี้ เผื่อพี่หน่องถาม และมันก็ช่วยได้นะ

ปล. ตอนนี้เรื่องขึ้นดอกเบี้ย ลดเงินเฟ้อ เป็นเรื่องหมูๆ ที่เข้าใจง่ายมากๆ ว่าขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อลดการใช้จ่าย ลดการลงทุน ทีนี้อุปสงค์ก็น้อยลง คนขายก็ต้องลดราคาสินค้าให้กลับมาอยู่ในจุดสมดุล เงินเฟ้อก็ลดลงตาม
----------------------------------------------------------

ความเป็นเด็กนี่ก็เป็นปัญหา ตัวอย่างตอนไปทำข่าวที่เชียงใหม่ กับกรมบังคับคดีหลังจากที่ผมส่งข่าวกลับมาแล้ว ซึ่งผมคิดว่าเสร็จงานแล้ว จึงออกไปท่องราตรี เมาหัวราน้ำกลับมา แต่ผมก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนไม่ได้รบกวนใครนะ ไม่ได้ตื่นสาย ไม่ต้องให้ใครมารอ ผมต้องรอคนอื่นด้วยซ้ำ ร่วมงานกับคณะได้ตามปกติ

แต่พอกลับมาโดนด่าเลย ว่าอยากทำตัวแบบนั้น ต้องไปเที่ยวเอง ไม่ใช่ที่กองส่งไปทำข่าว เรื่องนี้มีนักข่าวที่ไปสัญจรเชียงใหม่ในขบวนมากเล่าให้ที่กองฟัง พี่กุ้งที่ส่งผมไป บอกว่าวงการนี้มันแคบ ใครทำอะไรใครทำตัวยังไงรู้กันหมด ซึ่งวินัยเป็นเรื่องสำคัญของนักข่าวที่นี่ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา ที่คิดแค่ว่าไม่ได้ทำให้งานเสีย ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่จริงๆ มันทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสีย ว่าส่งคนไปแล้ว ทำตัวไม่ดี ซึ่งผมรู้สึกเสียใจ และจะไม่ทำอีก

----------------------------------------------------------

ปัญหาสำคัญที่สุดของผมคือ ภาษาอังกฤษ ถ้าพูดว่าแย่ก็เหมือนว่าจะชมตัวเองเกินไป บัดซบ...น่าจะเป็นคำที่เหมาะที่สุด ซึ่งนักข่าวในโต๊ะเศรษฐกิจ ทังหมดเขียนภาษาอังกฤษกันได้ จะเหลือนักข่าวที่เขียนอังกฤษไม่ได้อยู่บ้างก็ในโต๊ะการเมือง

ทีนี้พอผมเขียนไม่ได้ ก็ต้องมีคนแปลข่าวให้ ซึ่งมันก็เหมือนกับเพิ่มภาระให้กับคนอื่น
แต่ก็ใช่ว่าทักษะผมจะบัดซบมาก ผมอ่านได้รู้เรื่อง แม้ว่าบางคำต้องเปิดดิกดู แต่ก็อ่านเข้าใจ

เพียงแต่พูดได้นิดหน่อย กับเขียนได้นิดหน่อยเท่านั้น เช่น this is a book เป็นต้น ฮ่าๆๆ

ปัญหานี้ ก็คงต้องไปเรียนเพิ่มเติม กับฝึกเองให้มากๆ และผมจะลองพยายามดู



เดอะเนชั่น
คมชัดลึก
บางกอกโพสต์
มติชนมติชน
ผู้จัดการ
สยามสปอร์ต
ไทยรัฐ
กรุงเทพธุรกิจ
ไทยโพสต์
โพสต์ทูเดย์
มติชนข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
แนวหน้า
เดลินิวส์